วันเสาร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2556

สามเคะซ่า 29 : BBFF (Best Bitchy Friends Forever).




29

BBFF (Best Bitchy Friends Forever).




ห้อง 101

            เซฮุนกับคยองซูที่ตอนนี้หัวใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ บิดลูกประตูห้องเข้าไป ก่อนจะเจอแผ่นหลังที่คุ้นเคยนั่งอยู่ในนั้น... ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอยู่ในอารมณ์ไหน


            รู้กันแค่นี้นะ... ว่าแบคฮยอนน่ะ...

            พอโกรธแล้ว... สายตาและคำพูดเชือดเฉือนยิ่งกว่าดาบซามูไร


            “มาแล้วหรอ...” คนในห้องหันมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย แววตาดุดันแบบนั้นเซฮุนกับคยองซูเคยเห็นมาก่อน...


            ตอนที่มีชะนีกรีดข้อมือเรียกร้องความสนใจจากแบคฮยอน แต่แบคฮยอนกลับไม่สงสารหรือเห็นใจ เดินเข้าไปด้วยสายตาแบบนี้และพูดว่า พ่อแม่ให้เลือดเนื้อเธอมาเพื่อบ้าผู้ชายรึไง
            ตอนนั้นคยองซูกับเซฮุนได้แต่แอบอยู่หลังเสา แต่ตอนนี้กลับต้องมาเจอะกับตัวเอง


            “กูขอโทษ” เซฮุนยืนก้มหน้ารับความผิด “กู... ไม่ได้เป็นตุ๊ดขนาดนั้นนะ กูแค่ไม่อยากเป็นผู้ชาย แต่กูก็ไม่ได้อยากเป็นผู้หญิง”

            “อืม” แบคฮยอนตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “มีอะไรจะโกหกกูอีกก็พูดมา”

            “แบค...” คยองซูเอ่ยปากเบาๆ แต่เมื่อเจอสายตาเย็นชามองมาก็ไม่สามารถพูดอะไรได้อีก
            “กูพูดความจริงทุกอย่าง กูขอโทษที่ปิดบังพวกมึง... แต่กูไม่รู้จะบอกเมื่อไหร่”

            “คราวหลังก็รอให้มึงเป็นหัวหน้าแก๊งนั้นไปก่อนสิแล้วค่อยมาบอกกู” 

            “ไม่ใช่อย่างนั้นนะ...” เซฮุนที่ได้ยินคำพูดเสียดแทงจากปากเพื่อนรักก็รู้สึกน้อยใจขึ้นมาทันที แต่รู้ว่าตัวเองทำผิดจึงไม่สามารถด่ากลับได้

            “เรื่องนี้มีใครรู้บ้างนอกจากไอ้พวกนั้น”
            “พี่ลู่... แค่พี่ลู่คนเดียว... แบค จริงๆ เมื่อวานกูจะพูดแล้วนะ แต่พี่ลู่ไอขัดขึ้นมาแล้วบอกว่าไม่ให้กูพูด กูไม่รู้จะทำยังไง” เขาพยายามหว่านล้อม แต่เหมือนคนตรงหน้าแค่ยืนกอดอกรับฟังอย่างเฉยชาเท่านั้น

            “...”

            “ที่กูเลิกกับพี่ลู่ตอนนั้นก็เพราะเรื่องนี้ พี่ลู่โดนโห่ที่มีแฟนเป็นตุ๊ด กูยอมไม่ได้เลยเลิกกับพี่เค้า” 

            “อ้อออออออออออออ” หัวหน้าแก๊งลากเสียงยาวเหมือนประชดประชัน “ที่พวกกูเป็นห่วงมึงว่าจะตายห่ามั้ยนี่คืออะไร? เฮอะ พวกกูห่วงคนที่โกหกปิดบังตัวเองนี่โง่จริงๆ”

            “ขอโทษ...” เซฮุนก้มหน้านิ่ง คยองซูทำได้แค่แตะบ่าห่อเหี่ยวนั้นอย่างเห็นใจ จะช่วยพูดคงไม่ได้แล้ว เพราะตอนนี้ถูกเหมารวมว่าอยู่พวกเดียวกับแบคฮยอนเรียบร้อย

            ...

            “มึงจะไล่กูออกจากกลุ่มก็ได้... ฮึก... ไล่ก็ได้นะแ... แบค ฮึก...” เสียงเลขาฯ แก๊งสะอึกสะอื้น เขาไม่รู้จะแก้ปัญหายังไง พูดขอโทษก็แล้ว... สารภาพทุกอย่างก็แล้ว แบคฮยอนก็ยังนิ่งเฉย

            “...”

            “กูทำผิดกฎข้อที่หนึ่ง... กูแม่งเหี้ย ข... ขอโทษ ฮึก... “
            “เงย-หน้า-ขึ้น” แบคฮยอนสั่งเสียงแข็งจนคนถูกสั่งต้องเงยหน้าขึ้นมา


            เพียะ!

            ฝ่ามือเรียวสวยตบเข้าที่ใบหน้าเพื่อนรัก คนถูกตบถึงกับต้องหันหน้าไปตามแรงเหวี่ยงนั้น ก่อนจะกัดปากกลั้นน้ำตาและความเจ็บ รอยมือสีแดงฉานปรากฏบนใบหน้าเนียนชัดเจน

          
            “มึงอยากไปอยู่กลุ่มนั้นมากใช่มั้ย”

            “...”

            “อยากไปก็ไป แต่มึงนึกดีๆ นะ... มีแค่หัวหน้ากับรองหัวหน้า มันจะเป็นกลุ่มเป็นแก๊งยังไง

            “...”

            “มึงไม่มีพวกกู มึงจะอยู่ได้มั้ย... แล้วพวกกูไม่มีมึงอ่ะ พวกกูจะอยู่ได้มั้ย” คำพูดประโยคสุดท้ายของหัวหน้าเหมือนน้ำที่มาหล่อเลี้ยงหัวใจเลขาฯ เหลือเกิน เขามองหน้าคนพูดเพราะรู้สึกซึ้งใจ...
            

            แต่ก็ต้องเห็นว่ามีน้ำคลอเอ่ออยู่ในตา


            “สัส... กูเกลี่ยขนตาลงแป๊บ” แบคฮยอนเอานิ้วป้ายที่ตาก่อนจะพูดข้ออ้างบ้าบอ ทั้งที่ความจริงแล้วก็แค่อยากจะปัดน้ำตาทิ้งเท่านั้น

            “...” เซฮุนยิ้มออกมาเมื่อเห็นภาพคนที่ไม่เคยร้องไห้ให้เห็น... หาข้ออ้างเล็กๆ มาบอกเพื่อกลบเกลื่อนน้ำตาที่กำลังจะไหล 

            “เรื่องมึงเป็นตุ๊ดแล้วทำไมวะ กูไม่สน ผิดกฎก็ช่างแม่งดิ กฎนี้กูเป็นคนสร้าง...”

            “...”

            “กูก็ลบได้เหมือนกัน” แบคฮยอนพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว แขนสองข้างที่กางออกมานั้นเหมือนเป็นสัญญาณให้เลขาฯ รับรู้ว่า...



            กอดกันเถอะ

 
            “แบค... ฮึก... ฮึก... ฮืออออออออออออ” เมื่อโผเข้าไปในอ้อมกอดเพื่อนรักแล้ว น้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด เหมือนความเป็นเพื่อนมันเหนียวแน่นเสียจนไม่สามารถเอาอะไรมาทำให้ขาดได้


            กฎ... ลบได้
            เพื่อน... ลบไม่ได้


            “เอ้าอีโด้! ยืนเอ๋อทำไม มากอดด้วยกันดิ๊” แบคฮยอนกวักมือเรียกคยองซูที่ยืนเอ๋อทำตัวไม่ถูก รองหัวหน้ายิ้มเบาบางก่อนจะโผเข้าไปกอดด้วยกัน
            “เฮ้อ... เราสามคนต้องไม่ปิดบัง ไม่โกหกกันอีกแล้วนะ... เข้าใจมั้ย” แบคฮยอนลูบหลังลูกกรอกทั้งสองก่อนจะพูดพร้อมหลับตาพริ้ม

            “อื้อ...”

            “เราสามคนต้องอยู่ด้วยกันตลอดไป จะเป็นเพื่อนกันตลอดไป... เข้าใจมั้ย”

            “อื้อ...”

            “เมื่อกี้กูพูดแรงไป ขอโทษนะฮุน... ขอโทษนะโด้” หัวหน้าแก๊งแสดงสปิริทรับผิดชอบคำพูดเชือดเฉือนเหล่านั้นด้วยการขอโทษอย่างจริงใจ 

            “ม... ไม่เป็นไร มึงเท่มาก ฮึก... ถ้ามึงไม่เป็นคนแบบนี้ กูก็คงจะเป็นแค่แรดก้าวร้าวตัวนึง” เซฮุนขยี้จมูกฟึดฟัดเพื่อเช็ดน้ำมูก ถูกอย่างที่เซฮุนบอก... เพราะแบคฮยอนสามารถควบคุมเขาได้ เขาจึงยอมให้ทุกอย่างและยอมเชื่อฟังทุกคำพูด
            “ฮ่าๆๆ งั้นกูคงสอนให้มึงกลายเป็นแรดเชื่องสินะ” ทั้งสามคนผละออกจากกัน พร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า และแบคฮยอนก็มองลูกน้องทั้งสองคนด้วยแววตาซุกซน


            ก่อนจะวางมือลงไปตรงกลาง


            “น้องแบค แดกน้ำขุ่น!
            “น้องฮุน คุณต้องโปร!
            “น้องโด้ โกทูเดอะซี!
            “เคะน้อยรอคนมาสอยพรหมจรรย์ พร้อมไม่พร้อม!?
            “พร้อม!
            “รัวมือ!
            แปะแปะ แปะแปะแปะ แปะแปะ แปะแปะแปะ!

            .
            .
            .

            “พวกกูจะรักกันตลอดไป อิดอกที่ไหนก็มาขวางพวกกูไม่ได้” หัวหน้า

            “อื้ม!!!!” ลูกกรอกทั้งสอง

            มิตรภาพของพวกเราจะคงอยู่ตลอดไป!!!” หัวหน้า

            “ภาพของเพื่อนจะคงอยู่ตลอดไป!!” เลขาฯ

            “พ่อง” รองหัวหน้า








            “กูแค่อยากให้เซฮุนมันมาเป็นหัวหน้าให้ นี่ต้องถึงกับมัดเชือกขนาดนี้เลยรึไง!” หัวหน้าแก๊งตุ๊ดดิ้นๆ อยู่ในพันธนาการของเชือก เขาโดนมินโฮจับมัดไว้กับเสาโรงยิม แถมยังให้เลิกพูดถึงเซฮุนอีก
            “หัวหน้ากูเค้าไม่มีวันไปเป็นหัวหน้ากลุ่มกระจอกๆ ของมึงหรอก! แล้วเค้าก็มีกลุ่มอยู่แล้ว! เค้าไม่ไปอยู่กลุ่มมึงหรอกสัส!
            “กูไม่ยุติความคิดจนกว่าหัวหน้ากลุ่มมันจะมา!! ไอ่แบคฮยอนอะไรนั่นน่ะ! มันต้องมาพูดกับกูเองว่า... เซ-ฮุน-อยู่-กลุ่ม-มัน!

            “เซ-ฮุน-อยู่-กลุ่ม-กู” เสียงดังลั่นมาจากประตูโรงยิมก่อนจะปรากฏเงาคนสามคนกำลังเดินเข้ามา แหม่ะ... เท่ซะไม่มี

            “แต่พวกมึงเป็นเคะ! เซฮุนเป็นตุ๊ด! เซฮุนควรอยู่กลุ่มกู!” นังหัวหน้าแก๊งตุ๊ดซี่ฯ ยังดิ้นรนไม่หยุด ในขณะเดียวกัน... ฝีเท้าของแบคฮยอนก็เดินเข้ามาใกล้นางทุกขณะจิต 

            จนหยุดอยู่ตรงหน้า... และทำให้มินโฮต้องหลีกทางไป เพราะตอนนี้ไม่ใช่แบคฮยอนคนเดิมแล้ว

            “แล้วถ้ามึงจะไปหาตุ๊ดคนอื่นเป็นหัวหน้า มึงจะขาดใจตายหรอ? จะกลับไปเป็นผู้ชายหรอ? เป็นเหี้ยไร ยุ่งกับเพื่อนกูจัง... หื้ม?” หัวหน้าแก๊งเคะน้อยฯ จับปลายคางนังหัวหน้าแก๊งตุ๊ดฯ ให้เชิดขึ้น เพื่อจะได้มองหน้าตัวเขาชัดๆ
            “กูเป็นรุ่นพี่มึงนะอีแบค” นางกัดฟันพูดอย่างขุ่นเคืองที่ถูกกระทำเหมือนตัวเองเป็นรุ่นน้อง
            “มึงไม่ใช่รุ่นพี่กูแล้ว เพราะวันนี้มึงเรียนเป็นวันสุดท้าย และ... กูก็ไม่คิดจะนับถือมึงอยู่แล้ว” แบคฮยอนสลัดมือตัวเองทิ้ง นั่นเท่ากับว่าใบหน้าของหัวหน้าแก๊งตุ๊ดฯ ก็ต้องถูกสะบัดไปตามแรงด้วย
            “แบคฮยอน! มึงทำแบบนี้กับกูไม่ได้นะ! มึงต้องเคารพกู! และต้องยกเซฮุนให้กูด้วย!
            “นี่ๆ” แบคฮยอนลงไปนั่งตรงหน้านาง ก่อนจะสะกิดเหมือนเป็นคนใสซื่อ “กูให้มึงเลือกนะว่ามึงจะคุยกับใคร ระหว่าง...”
            “กู ผู้ชอบด่าและไร้ซึ่งเหตุผล”

            “...”

            “อิคนนั้น คยองซูหรือรองหัวหน้า ผู้ที่มีเหตุผลมากๆๆ จนมึงจะรำคาญจนหูชาได้”

            “...”

            “และอิฮุน เลขาฯ ผู้ที่ไร้เหตุผลทุกอย่าง ไม่ด่าให้เสียเวลา ใช้กำลังอย่างเดียว”

            “...”

            “เลือก” แบคฮยอนยิ้มเยือกเย็นให้ ก่อนจะนั่งขัดสมาธิรอคำตอบ
            “กู-ไม่-เลือก”
            “ดื้อจังวุ้ย กูต้องทำยังไงมึงถึงจะล้มเลิกซักที”
            “ส่งฮุนมา”
            “ไม่ส่ง” แบคฮยอนตอบอย่างรวดเร็ว ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างออก “อ้อ... อยากมีผัวรึเปล่า เลยทำตัวงี้”
            “ม... ไม่เกี่ยว!” นางตอบปากสั่น เพราะรู้สึกว่าไม่เกี่ยวจริงๆ แต่ทำไปทำมาก็ชักอยากจะ... มี...
            “พี่มินโฮ~” แบคฮยอนเรียกคนที่นั่งอยู่ข้างๆ “เป็นผัวมันที”
            “ครับ” มินโฮตอบอย่างเต็มใจ คือไม่ได้อะไรหรอก... ทำตามคำสั่งหัวหน้าใหญ่จริงๆ
            “บาย ^O^” แบคฮยอนโบกมือลาก่อนจะพาลูกกรอกสองตัวออกไปจากโรงยิม ทิ้งให้พวกเขาสองคนอยู่ด้วยกันตามลำพัง...
            “มึงห้ามทำอะไรกูนะ!” เสียงกรีดร้องหวีดแหลม แต่มินโฮก็ดูไม่สนใจอะไรเท่าไหร่ เขาสนใจแค่คำสั่งของหัวหน้าใหญ่เท่านั้น
            “ก่อนกูจะปล้ำมึง... กูขอถามชื่อมึงก่อน จะได้ไม่ค้างคา”
            “คิม... ไม่... กูไม่อยากพูดชื่อจริง”
            “เออ งั้นจะพูดฉายาในวงการอะไรของมึงก็พูดเถอะ” มินโฮพูดอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะเริ่มถอดเสื้อตัวนอกทิ้ง

            “คีย์... มึงรู้ว่ากูชื่อคีย์ก็พอ”








 [HERE]

วันสอบวันสุดท้าย...

            หลังจากสอบเสร็จ พี่อี้ฟานก็ใจปล้ำพาน้องๆ ไปกินเลี้ยงหมูย่างเหมือนเดิม และ! อย่าลืมว่าต้องใช้บัตรใครจ่าย? กูรู้ว่าพวกมึงรู้ 5555555555 ลู่หานไง อุอุ

            “เอาล่ะๆ ก่อนจะกลับหอกัน... ทุกคนช่วยฟังที่กูจะพูดด้วย” อี้ฟานเอาส้อมเคาะแก้วเรียกร้องความสนใจจากเด็กๆ และเพื่อนๆ ที่กำลังคุยกันโหวกเหวก
            “ไร ถ้าไร้สาระพวกกูจะเอาหน้ามึงแนบตะแกรง” ลู่หานพูดขึ้นราวกับเป็นสิ่งปกติที่ชอบทำที่สุด... พูดขัดอี้ฟาน
            “กูกับอี้ชิงจะยกตำแหน่งหัวหน้าหอให้ชานยอลกับแบคฮยอน” อี้ฟานประกาศพร้อมรอยยิ้ม แต่เด็กน้อยสองคนที่มีรายชื่ออยู่ในนั้นกลับตกใจ
            “ไม่เอาอ่ะพี่คริส! ผมไม่อยากเป็นหัวหน้าหอออออ TOT” ชานยอลแทบจะวิ่งเข้าไปกราบคุณพี่คริส
            “ใช่ๆ แบคก็ไม่เอานะ แบคไม่อยากนอนแยกกับชานยอล T^T” แบคเขย่าแขนพี่อี้ชิงที่นั่งข้างๆ ตัวเองก่อนจะร้องเสียงดัง
            “เดี๋ยวดิ พวกกูก็นอนด้วยกันมาชาตินึงละเนี่ย =___=” อี้ฟานบ่นเซ็งๆ
            “ใช่จ้ะแบคฮยอน พี่คริสเค้าบอกครูแล้วว่า น้องรุ่นต่อไปเค้าจะมานอนด้วยกันทุกคืน ให้ครูทำใจรอไว้ได้เลย >__< แบคฮยอนไม่ต้องห่วงนะว่าจะไม่ได้นอนด้วยกัน” อี้ชิงรีบปลอบน้อง
            “งั้นผมก็ต้องไปนอนหอสอง แล้วโด้กับฮุนก็นอนหอหนึ่งหรอครับ T___T
            “ไม่จ้ะ พี่ให้อาเทาไปนอนหอหนึ่งแล้ว ส่วนโด้กับฮุนก็นอนห้องเดียวกันที่หอสอง ดีมั้ยจ๊ะ?” พี่อี้ชิงถามความเห็นน้องๆ ถึงมันจะไม่ค่อยอยาก แต่ถ้าเจ๊ใหญ่ถามก็คงต้องโอเค =O=
            “ก็ได้ครับ T___T
            “แหมแบคฮยอน แรกๆ ก็งี้แหละ ทำไปทำมาก็โอเค ชิวๆ” อี้ฟานช่วยพูดอีกแรง จนน้องตัวเล็กพยักหน้าหงึกหงัก ต่างจากชานยอลที่โอเคไปตั้งแต่แรกแล้วที่รู้ว่านอนด้วยกันได้

            “นอนด้วยกันอีกปีนะแม็กนั่ม ^^
            “อื้อ >__<







ห้อง 102

            “เนี่ย คยองบอกตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วแล้วนะว่าให้เก็บของล่วงหน้า ดูซิ พรุ่งนี้ต้องย้ายออกแล้ว วันนี้ยังเก็บของไม่เสร็จเลยฮึ่ย -_-^” คยองซูพูดบ่นไปเรื่อยเปื่อย ทั้งที่มือเล็กก็ยังเอาของๆ จงอินเก็บเข้ากล่อง
            “หู่ยยยยย ก็พี่ลืมนี่นา T^T” จงอินที่ตอนนี้กำลังเก็บของมือเป็นระวิงเช่นกันพูดตอบหง็อยๆ
            

            แล้วทั้งคู่ก็ตกอยู่ในความเงียบ...


            “คยองดูแลตัวเองดีๆ นะ...” จงอินเป็นคนพูดขัดขวางความเงียบ แต่ดูเหมือนประโยคที่พูดจะทำให้คนฟังอยากเงียบมากกว่าเดิม

            “อือ”

            “เฮ้อ... พี่คงไม่ได้ไปนอนหอที่มหาลัยโซลเหมือนคนอื่นเค้านะ สบายใจได้ เพราะบ้านพี่อยู่ใกล้มหาลัย เดี๋ยวพี่ขับรถไปเรียน แต่พี่ก็คงจะซื้อคอนโดอยู่กับไอ่ฟานมั้ง” จงอินพยายามเปลี่ยนเรื่อง แต่มันก็ยังวกวนอยู่กับเรื่องเดิมๆ


            เรื่อง... การต้องลาจากกัน


            “มาหาคยองไม่ต้องบ่อยนะ เอาเท่าที่ว่าง” คยองซูก้มหน้าก้มตาพูด และนับว่าเป็นประโยคที่ทำให้จงอินภูมิใจที่สุดที่เลือกคนๆ นี้


            เป็นคนอื่นคงจะพูดว่า มาหาบ่อยๆ นะ
            แต่คนนี้กลับเลือกที่จะพูดให้เขามาไม่บ่อย แต่มาเท่าที่ว่าง
  
         
            “ครับ ว่างเมื่อไหร่จะมาทันที” จงอินผละจากกล่องเก็บของในมือ เดินไปหาคนตัวเล็กที่ตอนนี้ดูนิ่งไปอย่างแปลกประหลาด เขาเริ่มสัมผัสได้แล้วล่ะ... ว่ามีอะไรเกิดขึ้น...
            “คยองอ่า... อย่าร้องไห้นะ คยองเข้มแข็ง ฮึบๆ” จงอินจับบ่าคนตัวเล็กเบาๆ และพูดให้กำลังใจ แต่คนตัวเล็กกลับหันหน้ามาหาเขาแล้วโผซบที่อกแกร่ง
            “ฮึก... ฮือออออออออออออออออออออออออ” แล้วก็ร้องไห้ออกมาเสียงดัง =_____=
            “โอ๋ๆๆ ไม่เป็นไรนะๆ ปีหน้าคยองก็สอบให้ติดมหาลัยโซลดิ เราจะได้ไปอยู่ด้วยกันไง” จงอินพูดยิ้มๆ ลูบหัวคนตัวเล็กกว่าอย่างทะนุถนอม
            “ฮึก... ไอ่เรื่องปีหน้าอ่ะ มันติดอยู่แล้วล่ะ!” คยองซูสูดน้ำมูกไปก็พูดไปอย่างมั่นใจ “แต่ปีนี้อ่ะ... คยองต้องอดทน... อดทน...”
            “ช่ายยยยย~ อดทนเนอะๆ ^^” จงอินพูดยิ้มๆ บรรจงจูบที่ขมับของคยองซูก่อนจะกอดอีกครั้ง
            “พี่อิน...”

            “จ๋า?”

            “ทิ้งอะไรไว้ให้คยองหน่อยสิ” คนตัวเล็กพูดเสียงอ่อยแถมยังหลบตาอีกต่างหาก
            “เอาอะไรล่ะ ตุ๊กตาหมีของพี่มะ?”
            “ไม่...”

            “...”

            “ทิ้งอะไรไว้ในตัวคยองหน่อยสิ” คนตัวเล็กพูดอ้อมแอ้มในลำคอ แต่เพราะความใกล้ชิดก็ทำให้จงอินได้ยินเต็มสองรูหู คนได้ยินหัวใจกระตุกวูบ... กลัวว่าจะทำให้น้องเจ็บ         

            “พี่อุตส่าห์ห้ามใจไม่ทำอะไรนะ”
            “คยองแค่อยาก... มีของๆ พี่ติดตัวกับคยองตลอดเวลา”

           “...”

           “และของชิ้นนั้นก็คงจะต้องเป็นตัวคยองเอง” คนพูดช้อนตามองคนตัวสูงด้วยแววตาออดอ้อนจนคนถูกมองต้องหลบตา... ใครสอนให้ยั่วให้อ่อยด้วยแววตาแบบนี้หา เด็กบ้า = / / / / =


            อ้อ... คงไม่ต้องถามหรอก เพราะนางก็เป็นรองหัวหน้าแก๊งเคะน้อยฯ อยู่แล้วหนิ T^T


            “เฮ้อออ... เจ็บตัวแล้วอย่ามาบ่นละกัน” จงอินถอนหายใจยาวๆ และจับมือคนตัวเล็กเดินไปที่เตียง
  
           “พี่อินนี่ก็ชอบคิดเองเออเองอยู่เรื่อยเลย”

            “...”

            “ดูแบคกับฮุนดิ สองคนนั้นโดนขนาดไหนก็เดินไหว ฮ่าๆๆๆ แล้วคยองจะเจ็บได้ไงโถ่ว” เด็กดื้อขี้อ้อนพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ จนคนตัวสูงต้องหัวเราะออกมา... เออออ ลองโดนเองแล้วกันเด็กบ้าาาา~

            “ไม่ต้องเกร็งนะ” พี่อินพูดเบาๆ ก่อนจะจับตัวน้องให้นอนลงบนเตียง... เขาจูบที่ศีรษะ เลื่อนลงมาจูบที่ปลายขมับ ใบหู แก้มเนียน ปลายจมูก... 

            คยองซูหลับตาแน่น ไม่ใช่ว่าตื่นเต้น...
            แต่น้ำตามันจะไหล
            

            และหยดน้ำตาก็ไหลลงจากมุมขอบตาทั้งที่เขายังหลับตาอยู่


            “ฮึก... ขอโทษนะพี่อิน ต่อเถอะ” มือเล็กยกขึ้นมาปาดน้ำตาด้วยตัวเอง ก่อนจะลืมตาขึ้นเพื่อเป็นการยืนยันว่าจะไม่ร้องไห้อีก คนตัวสูงชะงักไปนิดหน่อยแต่ก็ยิ้มให้อย่างใจดี

            “มันเป็นครั้งแรก... แต่มันไม่ใช่ครั้งสุดท้ายนะครับ” 

            “อื้อ” คนตัวเล็กพยักหน้าหงึกหงัก ร่างสูงถอดเสื้อตัวเองและของคยองซูออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะได้เห็นร่างขาวเนียนอยู่ด้านล่าง ส่วนตัวเขาเองที่แต่ก่อนไม่ค่อยจะมีซิกแพ็กเท่าไหร่ก็ต้องทำให้น้องประหลาดใจ... ซิก-แพ็ก-พี่-อิน-มา-จาก-ไหน-ฟระ O / / / / O
            “แหะ... แอบซุ่มปั้นซิกแพ็กอยู่น่ะ ชอบปะๆ”

            “เคยบอกแล้วนะว่าไม่ได้ชอบคนที่ซิกแพ็ก”

            “...”       

            “แต่ถ้าพี่อินมี... ก็โอเค ฮ่าๆๆๆ” คนตัวเล็กตอบหัวเราะร่า จงอินยิ้มหึๆ ชอบใจในลำคอก่อนที่จะจุมพิตที่ปลายคางและต้นคอขาว บรรจงจูบที่ปลายไหล่มนและหยิบมือเล็กขึ้นมาบรรจงจูบที่ปลายนิ้ว... 


            ราวกับจะให้ เขา อยู่ในตัวคยองซูให้มากที่สุด

            ไม่ว่าจะเห็นส่วนไหนในร่างกายตัวเอง... ก็ต้องเห็นหน้า พี่อินลอยเข้ามาในหัว


            “อื้ม...” ร่างเล็กเชิดอกบางขึ้นเมื่อคนเป็นพี่บรรจงจูบที่ปลายยอดสีชมพู ลิ้นหนาหมุนวนราวกับจงใจให้คนตัวเล็กเสียวเล่น... แล้วเขาก็เสียวแล้วเชรงๆ T / / / T

            ร่างสูงขบเบาๆ บนลำตัวขาวเนียน เมื่อเห็นว่ามีรอยสีแดงปรากฏชัดเจนก็ยิ้มกริ่มพอใจ ก่อนจะดูดดึงไปตามเอว สะโพกมนจนเป็นรอยสีแดงไปทั่ว


            อิห่าฮุน อิห่าแบค... มันเสียวขนาดนี้มึงไม่เคยจะบอกกูซักคำ - / / / / / -


            ร่างสูงยังคงเล่นลิ้นไปเรื่อยเปื่อย เขาถอดกางเกงชั้นในสีขาวออกจนเห็นคยองซูน้อย... ร่างสูงยิ้มพึงพอใจเมื่อปลายยอดของคยองซูน้อยเริ่มสั่นและมีน้ำปริ่มออกมา ฮั่นแหน่ะ! ถือว่าที่ใช้ลิ้นมาเมื่อกี้ก็พอใช้ได้อยู่สินะ -^-

            เขาลุกขึ้นนั่งก่อนจะอมนิ้วมือตัวเองจนชุ่มและค่อยๆ เอานิ้วชี้แทรกสอดเข้าไปในช่องทางหวาน... 

            “อึก... จ... เจ็บแล้วล่ะ” คยองซูร้องออกมาเบาๆ เพราะความฝืดเคืองภายในทำให้เจ็บนิดหน่อย แต่น้ำลายที่เคลือบอยู่บนนิ้วของคนเป็นพี่ก็เหมือนเป็นตัวหล่อลื่นชั้นดี ร่างเล็กชันขาขึ้นอย่างไม่ตั้งใจจะยั่ว สายตาคนมองโลมเลียไปทั่วก่อนจะยิ้มหื่นกาม

            “นิดนึงนะ...” เขาละคำว่า เจ็บไว้และยิ้มให้อย่างอ่อนโยน เหงื่อที่เริ่มผุดพรายบนใบหน้าเหมือนเป็นตัวเพิ่มความเซ็กซี่ให้กับเขา

            “อื๊อ” ร่างเล็กบิดเร่าทรมานเมื่อสิ่งแปลกปลอมเพิ่มจากหนึ่งนิ้วเป็นสองนิ้ว... และเพิ่มเป็นสามนิ้วทันทีเพราะความใจร้อน แต่ดูเหมือนคนตัวเล็กจะทำได้ดี... เพราะช่องทางวาบหวานเริ่มขยายตัว เหมือนพร้อมรอรับสิ่งแปลกปลอมของจริงให้เข้ามาได้

            ร่างสูงยืดตัวขึ้นและถอนนิ้วมือออก ยิ้มให้อย่างอ่อนโยนเพื่อเรียกความสนใจจากคนตัวเล็ก ก่อนจะค่อยๆ ยัดแกนกายเข้าไปช้าๆ 

            “อ๊ะ... อ๊ะ... พ... พี่อิน” เมื่อถูกกระแทก เสียงหวานก็ร้องออกมาไม่เป็นภาษา จงอินซี้ดปากพึงพอใจ เพราะนอกจากเสียงเล็กจะร้องกระเส่าอยู่ข้างล่างแล้ว ช่องทางรักของน้องยังบีบรัดตุบๆ เสียจนเขาแทบลงไปคลั่งตายตรงนั้น

            “อ่า...” เขาครางออกมาอย่างไม่ตั้งใจ มือหนาบีบสะโพกมนเพื่อเร้าให้คนด้านล่างแอ่นสะโพกรับ ก่อนจะกระแทกลงไปถี่รัว ยิ่งกระแทกก็ยิ่งถูกจุด... คยองซูไม่เคยรู้สึกอย่างงี้มาก่อนเยย~

            “อ่ะ... อื๊อ... พี่อิน” ร่างเล็กข่วนจิกแผ่นหลังกว้างเพื่อปลดปล่อยอารมณ์เสียวซ่าน เพียงครู่เดียวก็กระตุกสั่นก่อนจะปลดปล่อยน้ำรักเปรอะเปื้อนหน้าท้องบาง เหงื่อที่ผุดบนลำตัวและใบหน้าของจงอินยิ่งเพิ่มดีกรีความเซ็กซี่... นี่อยากจะหลับตาแก้เขิน แต่ก็อยากมองพี่อินง่ะ (._.)

            “อีก... นิดนะ” จงอินพูดไม่เป็นจังหวะ เขากระแทกย้ำๆ ลงไปแรงๆ อีกไม่กี่ครั้งก่อนจะปลดปล่อยน้ำรักเข้าไปในช่องทางรัก... ถือว่ามีจงอินอยู่ในตัวคยองซูโดยสมบูรณ์

            “แฮ่ก... เหนื่อยอ่ะ ไม่เอาอีกแล้ว คยองเหนื่อยมาก อย่างกับวิ่งมาสิบกิโล” คยองซูรีบดันตัวจงอินให้ออกห่าง ก่อนจะนอนตะแคงพลิกตัวหนีทันที ร่างเล็กหอบไม่หยุดเหมือนวิ่งมาสิบกิโลจริงๆ จนคนเป็นพี่ต้องรีบเข้าไปปลอบ
            “ไม่เอาอีกแล้วได้ไงครับ... มีครั้งที่หนึ่งก็ต้องมีครั้งที่สองดิ ฮ่าๆๆๆ” จงอินหัวเราะพลางคว้าคนตัวเล็กมาแนบไว้กับตัว “แต่คืนนี้ไม่เอาแล้วก็ได้ครับ เหนื่อยแล้วก็นอนเนอะ”
            “แล้วของพี่อินอ่ะ ยังเก็บไม่เสร็จเลยนะ”
            “เดี๋ยวพี่เก็บเองครับผม” จงอินพูดพลางจูบกลุ่มผมนุ่ม รอยยิ้มผุดพรายบนใบหน้าอย่างห้ามไม่ได้ ก็แหม... นี่ไม่ได้ขอ น้องเค้าขอเอง ก็จัดให้น้องเค้าเลย เกร๋ไกร๋สไปเดอร์แมนสุดๆ =.,=
            “ไม่เอา จะช่วยเก็บด้วย” คยองซูพลิกตัวกลับมาหาเขา ปลายจมูกของคนทั้งคู่อยู่ติดกันเสียจนจะจูบกันอีกรอบก็ยังได้ 

            แต่ทั้งคู่กลับยิ้มให้กันเท่านั้น

            You’re mine. จินอง” คนตัวเล็กพึมพำเบาๆ ก่อนจะใช้นิ้วไล้ไปตามโครงหน้าคนเป็นพี่... ราวกับจะจดจำใบหน้าหล่อเหลานั้นด้วยปลายนิ้วของเขาเอง

            “ฮ่าๆ Yes, baby, I’m yours. คูซยอง” จงอินตอบหัวเราะร่าก่อนจะหลับตาพริ้ม ปล่อยให้น้องได้สัมผัสใบหน้าของเขาตามใจชอบ

            “สองตานี่ของคยองนะ มองคยองคนเดียว...” เมื่อมือเล็กลูบไล้ไปที่ดวงตาสองข้าง จงอินก็พูดขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม

            “แล้วนี่ล่ะ?” นิ้วเล็กหยุดอยู่ที่ปลายจมูก

            “อืม... หายใจเพื่อคยอง ฮ่าๆๆๆ” จงอินหัวเราะร่ากับมุกน้ำเน่าของตัวเอง ก่อนจะชะงักไปนิดหน่อยเมื่อปลายนิ้วมาลูบวนที่คิ้วขวา “คิ้วก็... เอาไว้ยักใส่คยอง”

            “ฮ่าๆๆ แล้วปากล่ะ...” 

            “เอาไว้จูบคยอง” จงอินตอบยิ้มหวาน

            “ขี้ตู่ -^-” คยองซูตอบพลางเบะปาก 

            “เอ้า ไม่เชื่ออีก... ลองปะล่ะ”

            “มาดิ..."











--------------------------- เย่!!!!!!! จบตอนที่ 29 แล้วนะ >____<
อีกไม่นานตอนที่ 30 คงตามมา เตรียมตัวรอตั้งแต่เนิ่นๆ ละกัน!!
อิเจ๊เปิด short fic แล้วนะ แต่ยังไม่อัพ คาดว่าจะอัพพรุ่งนี้แหละ (2/10/2556)
สำหรับใครยังไม่ได้จองสามเคะซ่า หรือ ฟัคมีรักมีรีปริ้น ไปที่ลิ้งค์นี้เลยจ้า